ข่าวฟุตบอล

ไขข้อสงสัย: หรือพรีเมียร์ลีกกำลังเข้าสู่ยุคทองของเกมรับ?

หลังจากหลายฤดูกาลที่พรีเมียร์ลีกเต็มไปด้วยสกอร์สูง แต่ปีนี้กลับรู้สึกว่าประตูกลายเป็นของหายากขึ้นมาเฉย ๆ สัปดาห์ที่ 4 ของซีซั่น 2025/26 มีเพียง 19 ประตูจาก 10 เกม หรือเฉลี่ยไม่ถึง 2 ประตูต่อเกม (1.9) ถือเป็นตัวเลขที่ต่ำที่สุดอันดับสองในรอบ 3 ฤดูกาล ทั้งที่เพิ่งผ่านหน้าต่างซัมเมอร์ที่มีการใช้เงินซื้อนักเตะรวมกันกว่า 3 พันล้านปอนด์ (4.1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ) ซึ่งเป็นสถิติใหม่ของลีก สองปีก่อน พรีเมียร์ลีกเพิ่งสร้างสถิติสูงสุดตลอดกาล ยิงรวมกัน 1,246 ประตู เฉลี่ย 3.28 ประตูต่อเกม แต่ปีนี้กลับเริ่มต้นด้วยค่าเฉลี่ยเพียง 2.34 ประตูต่อเกม หลังผ่าน 4 นัดแรก ถือเป็นการเปิดซีซั่นที่ต่ำที่สุดในรอบทศวรรษ และเป็นการตกลงที่ชันที่สุดในประวัติศาสตร์พรีเมียร์ลีก คำถามคือ นี่เป็นเพียง “อาการสะดุดช่วงต้นซีซั่น” หรือเรากำลังยืนอยู่หน้าประตูของ “ยุคใหม่ที่เน้นเกมรับ” กันแน่?

Nopphasin Kulabburi

ก๊อปหรือเก่ง? : เป๊ป vs อาร์เตต้า และเกมหมากรุกที่เปลี่ยนโฉมพรีเมียร์ลีก

ไม่มี “ผู้รักษาประตูที่เล่นบอลด้วยเท้าราวกับกองกลางคนที่ 11” สำหรับแมนเชสเตอร์ ซิตี้ในเกมบิ๊กแมตช์กับอาร์เซน่อลสุดสัปดาห์นี้อีกแล้ว เพราะเป๊ป กวาร์ดิโอลา เลือกทิ้งความนุ่มนวลของเอแดร์ซอน แล้วหันไปใช้ จานลุยจิ ดอนนารุมมา นายทวารร่างยักษ์ที่เล่นบอลกับเท้าได้แข็งทื่อกว่ามาก ไม่มีแบ็กขวาที่วิ่งเข้ามาเป็นมิดฟิลด์เพื่อเชื่อมเกม แต่กลับเป็น อับดูโคดี้ คูซานอฟ เซ็นเตอร์แบ็กสายพลังที่ถูกขยับออกไปด้านข้างแทน ไม่มี “ฟอลส์ไนน์” แต่เป็น “กองหน้าตัวเป้าแท้จริง” ที่ชื่อ เออร์ลิง ฮาแลนด์

Nopphasin Kulabburi

วาทะ โชเซ มูรินโญ : โค้ชที่ยอมตายไปกับไอเดียของตัวเองคือคนโง่

โชเซ มูรินโญ ไม่เคยเลือกคำพูดอ้อมค้อม เขาเคยพูดอย่างเผ็ดร้อนว่า “เรากำลังอยู่ในยุคที่โค้ชหลายคนพยายามทำในสิ่งที่มันไม่เวิร์ก และสุดท้ายก็ ‘ตาย’ แต่พวกเขาก็ยังพูดว่า ‘ผมตายก็จริง แต่ผมตายไปพร้อมกับไอเดียของตัวเอง’ … เพื่อนเอ๋ย ถ้านายตายเพราะไอเดียของตัวเอง งั้นนายมันก็โง่แล้ว” นี่คือถ้อยคำตรงไปตรงมาที่มูรินโญให้สัมภาษณ์กับสถานี Canal 11 ของสหพันธ์ฟุตบอลโปรตุเกส เมื่อถูกถามถึงวัฒนธรรมโค้ชยุคใหม่ที่มักจะยึดมั่นกับสิ่งที่เรียกว่า “ไอเดีย” หรือ “ปรัชญา” มากกว่าผลลัพธ์ในสนาม และมันทำให้เราย้อนนึกถึงอีกคำพูดดังของเขาหลังพา แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ชนะ อาแจ็กซ์ 2-0 ในรอบชิงยูโรปาลีกปี 2017 “ฟุตบอลมีพวกกวีเยอะ แต่กวีก็ไม่ค่อยได้แชมป์หรอก” สำหรับมูรินโญ โลกฟุตบอลถูกแบ่งออกเป็นสองขั้วชัดเจน — “นักปฏิบัติ” ที่พร้อมทำทุกทางเพื่อถ้วยแชมป์ กับ “กวี” ผู้ฝันไกลที่พร้อมตายเพื่อความคิด แม้จะไม่ชนะก็ตาม

Nopphasin Kulabburi

แผนโค่นเก้าอี้ : เมื่อเบื้องหลังเปลี่ยนกุนซือจาก นูโน เป็น เอนจ์ เกิดขึ้นตั้งแต่ฤดูกาลยังไม่เริ่ม

สำหรับแฟนบอลทั่วไป ฤดูร้อนของกุนซือมักหมายถึงการพักผ่อนหลังฤดูกาลอันยาวนาน แต่สำหรับ อังเก้ ปอสเตโคกลู มันคือการเดินทางที่มากกว่าการพักร้อน เพราะมันเต็มไปด้วยสายสัมพันธ์ การพบปะ และการวางหมากเพื่อเส้นทางใหม่ในอาชีพโค้ช ที่สุดท้ายพาเขามาจบลงที่ น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์ บทความนี้อ้างอิงและเรียบเรียงจากรายงานเชิงลึกของ The Athletic เกี่ยวกับเบื้องหลังการจากไปของ นูโน่ เอสปิริโต ซานโต และการเข้ามาของ อังเก้ ปอสเตโคกลู ที่น็อตติ้งแฮม ฟอเรสต์

Nopphasin Kulabburi

ความเปลี่ยนแปลงที่สเปอร์ส : ดาเนียล เลวี ยังมีอำนาจในทีมมากแค่ไหน?

ค่ำวันพฤหัสบดีที่ผ่านมา แดเนียล เลวี ประกาศก้าวลงจากตำแหน่งประธานสโมสรท็อตแน่ม ฮอตสเปอร์ หลังนั่งเก้าอี้มายาวนานถึง 24 ปี ไม่นานหลังจากนั้นมี รายงานว่า แท้จริงแล้วนี่ไม่ใช่การลาออกด้วยตัวเอง แต่คือการ “ถูกถอดถอน” จากเสียงส่วนใหญ่ของผู้ถือหุ้นตระกูลลูอิส ผู้เป็นเจ้าของสโมสรตัวจริง ตำแหน่งประธานที่เลวีเคยครอบครอง ถูกส่งต่อไปยัง ปีเตอร์ ชาร์ริงตัน อดีตนักการธนาคารเอกชนที่ไม่เคยมีพื้นฐานในวงการกีฬา แต่เป็นคนใกล้ชิดกับครอบครัวลูอิสโดยตรงการเปลี่ยนแปลงนี้สร้างคำถามมากมายในหมู่แฟนสเปอร์สและได้รวบรวมและตอบแบบตรงไปตรงมา ดังนี้

Nopphasin Kulabburi

ไม่ใช่ประสบการณ์ แต่คืออนาคต : ทำไมปีศาจแดงถึงเลือก ลัมเมนส์

แค่ไม่กี่ชั่วโมงก่อนตลาดนักเตะปิดตัวลง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ตัดสินใจที่หลายคนมองว่า “สวนทางกับความคาดหวัง” แทนที่จะคว้า เอมิเลียโน่ มาร์ติเนซ นายทวารดีกรีแชมป์โลกจากแอสตัน วิลล่า พวกเขากลับเลือกจ่ายเงิน 18.1 ล้านปอนด์ เพื่อเซ็นสัญญากับผู้รักษาประตูวัยเพียง 23 ปี เซนเน่ ลัมเมนส์ จากรอยัล อันต์เวิร์ป ดีลนี้ไม่ใช่แค่เรื่องของปัจจุบัน แต่เป็นการขยับหมากตามแผนใหญ่ที่สโมสรเรียกว่า “Project 150” — การพา แมนฯ ยูไนเต็ด กลับมาทวงแชมป์พรีเมียร์ลีกในปี 2028 ซึ่งตรงกับวาระครบ 150 ปีของสโมสร

Nopphasin Kulabburi