แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด กำลังเดินหน้าสู่การเปลี่ยนแปลงใหม่อีกครั้ง หลังฤดูกาลที่น่าผิดหวังในพรีเมียร์ลีก และคราวนี้ พวกเขาเลือกที่จะลงทุนกับอนาคต ด้วยการเซ็นสัญญากับ เอ็นโซ กาน่า-บิยิก (Enzo Kana-Biyik) กองหน้าดาวรุ่งวัย 18 ปี จาก เลอ อาฟร์ สโมสรในลีก เอิง ฝรั่งเศส
ประวัติ เอนโซ กาน่า-บิยิก
ชื่อเต็ม: เอ็นโซ กาน่า-บิยิก (Enzo Kana-Biyik)
วันเกิด: ปี 2006 (อายุ 18 ปี)
สถานที่เกิด: ปารีส, ฝรั่งเศส
สัญชาติ: ฝรั่งเศส (เชื้อสายแคเมอรูน)
ตำแหน่ง: กองหน้า
ส่วนสูง: ประมาณ 180 ซม.
เท้าถนัด: ขวา
จากตระกูลนักฟุตบอล สู่ความฝันบนเส้นทางปีศาจแดง
เอ็นโซ ถือสัญชาติฝรั่งเศสโดยกำเนิด เกิดที่ปารีส แต่มีเชื้อสายแคเมอรูนเต็มตัว ซึ่งหากย้อนดูประวัติครอบครัวของเขาแล้ว คงไม่แปลกใจว่าทำไมฟุตบอลถึงอยู่ในสายเลือด
พ่อของเขา อ็องเดร กาน่า-บิยิก คืออดีตกองหลังทีมชาติแคเมอรูนที่รับใช้ชาติไปถึง 80 นัด และเคยเล่นให้ เลอ อาฟร์ ในช่วงต้นยุค 90s
พี่ชายของเขา ฌอง-อาร์เมล กาน่า-บิยิก ก็เคยค้าแข้งกับแรนส์, ตูลูส, เม็ตซ์ และใช้เวลาหลายปีในลีกตุรกี
และเขายังเป็นหลานของ ฟรองซัวส์ โอมัม-บิยิก ฮีโร่ตลอดกาลของแคเมอรูน ผู้ยิงประตูชัยใส่อาร์เจนตินาในนัดเปิดสนามฟุตบอลโลก 1990
ดาวรุ่งที่กำลังรอวันเปิดตัว
แม้จะยังไม่ได้ประเดิมสนามให้ทีมชุดใหญ่ของเลอ อาฟร์ แต่ชื่อของ เอ็นโซ กลับอยู่ในลิสต์สำรองของทีมชุดใหญ่ถึงสองครั้งในฤดูกาลนี้ ทั้งเกมลีกกับลีลล์ และในถ้วยเฟรนช์คัพ เขาถูกเรียกตัวขึ้นซ้อมกับทีมชุดใหญ่บ่อยครั้ง สะท้อนถึงศักยภาพที่โค้ชอย่าง ดิดิเยร์ ดิการ์ เห็นในตัวเขา
ในระดับเยาวชน เขาโชว์ฟอร์มได้อย่างสม่ำเสมอให้กับทีม U19 โดยลงเล่นเต็มเกม 8 นัดหลังสุด และยิงไปแล้ว 8 ประตูในฤดูกาลนี้
ทายผลฟุตบอลพร้อมลุ้นรางวัล คลิกที่นี่
ไม่ใช่แค่แมนยูที่อยากได้
ตามรายงานจาก Le Parisien และ L'Équipe การย้ายทีมครั้งนี้อยู่ในขั้น "ใกล้เสร็จสิ้น" โดยครอบครัวของเอ็นโซก็มีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจครั้งนี้ แม้ก่อนหน้านี้จะมีข่าวว่า มาร์กเซย และ โมนาโก ให้ความสนใจเช่นกัน แต่สุดท้ายดูเหมือนแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด จะปาดหน้าคว้าลายเซ็นไปครอง
หลังการเซ็นสัญญา รายงานระบุว่า ยูไนเต็ดจะปล่อยให้เอ็นโซไปเก็บประสบการณ์กับสโมสรในเครือ INEOS อย่าง โลซานน์ ทีมในลีกสูงสุดของสวิตเซอร์แลนด์
สำหรับ ยูไนเต็ด นี่อาจไม่ใช่ดีลระดับซูเปอร์สตาร์ แต่เป็นแนวทางที่หลายคนอยากเห็น — การซื้อผู้เล่นดาวรุ่งต้นทุนต่ำแต่มีศักยภาพสูง เข้ากับยุคที่สโมสรต้องระวังการใช้เงินให้สอดคล้องกับกฎกำไร-ความยั่งยืนของพรีเมียร์ลีก
บทความที่เกี่ยวข้อง